รักษาออฟฟิศซินโดรม ปัญหาสุขภาพของวัยทำงาน ที่รัชตกายา


28/Feb/2025
28/Feb/2025 12:00 PM

ชีวิตวัยทำงานทุกวันนี้ ต้องสู้กับความรู้สึกปวดเมื่อยหลังจากนั่งทำงานทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง คอ ไหล่ ตลอดจนอาการชาที่มือ แต่ไม่เลือกที่จะรักษาออฟฟิศซินโดรม เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงหายไปเอง แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ความปวดเมื่อยทั่ว ๆ ไป กลับอาจเป็นสัญญาณของหนึ่งในปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนวัยทำงาน นั่นคือ "ออฟฟิศซินโดรม" ที่ยิ่งละเลย ก็ยิ่งทำให้อาการเจ็บปวดส่งผลกระทบต่อการทำงาน การใช้ชีวิต ไปจนถึงขั้นกระทบต่อสภาวะอารมณ์และจิตใจได้ หากคุณเริ่มมีอาการหรือเป็นมาสักพักแล้ว ไม่ต้องกังวลไป ที่รัชตกายา คลินิกกายภาพบำบัด เราพร้อมช่วยคุณกลับมามีชีวิตที่ปราศจากอาการปวด ด้วยการรักษาผ่านการทำกายภาพบำบัดอย่างใส่ใจ และมีเทคนิคเฉพาะที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด


 

สารบัญ


ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร

ออฟฟิศซินโดรม คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน เช่น การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์โดยไม่ขยับตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ เกิดความตึงเครียด และนำไปสู่อาการปวดเมื่อยในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณร่างกายส่วนบน เช่น คอ บ่า และไหล่


อาการของออฟฟิศซินโดรม

อาการของออฟฟิศซินโดรมที่ทุกคนสามารถสังเกตด้วยตัวเองได้ เช่น


  • มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บริเวณคอ บ่า ไหล่ รวมถึงหลังและเอว
  • รู้สึกชาหรืออ่อนแรงที่มือและแขน
  • กล้ามเนื้อมีอาการตึงตัวหรือข้อต่อติด ทำให้การเคลื่อนไหวไม่สะดวก เช่น ไหล่ติดยกแขนไม่สุด
  • อาการอื่น ๆ เช่น ปวดหรือเวียนศีรษะ ไมเกรน บ้านหมุน ก็อาจเกิดจากออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการทำงานโดยตรง คือ การการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง ซึ่งอาจร่วมกับการจัดท่านั่งที่ไม่เหมาะสมด้วย เช่น นั่งทำงานหลังค่อม หรือตัวหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่ในระดับสายตา และหากใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป ก็มีส่วนทำให้กล้ามเนื้อคอและหลังอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน


นอกจากนี้การขาดการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อบางจุด หรือการขาดการยืดเหยียดในจุดที่จำเป็นก็นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง รวมถึงความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นอีกปัจจัยเสริมที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มที่ กล้ามเนื้อมีการตึงสะสมด้วย




วิธีการวินิจฉัยอาการออฟฟิศซินโดรม

วิธีการวินิจฉัยอาการออฟฟิศซินโดรมที่รัชตกายา คลินิกกายภาพบำบัด เราให้ความสำคัญกับการตรวจประเมินละเอียดเพื่อสาเหตุที่แท้จริงของอาการ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้


การสัมภาษณ์และตรวจร่างกายละเอียด

เริ่มจากการสัมภาษณ์และตรวจร่างกายละเอียด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของรัชตกายาจะสอบถามอาการและพฤติกรรมการทำงานของผู้เข้ามารับคำปรึกษาอย่างละเอียดและลึก ด้วยรูปแบบการถามคำถามและการรับฟังเฉพาะของเรา จากนั้นจะมีการตรวจสอบท่าทาง กำลังกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่าง ๆ เพื่อประเมินอาการอย่างละเอียดต่อไป


การใช้เทคโนโลยี Moti AI Posture Analysis

ต่อด้วยการใช้เทคโนโลยี Moti AI Posture Analysis ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยวิเคราะห์ท่าทางและสมดุลของร่างกายอย่างละเอียด ช่วยระบุปัญหาที่ซ่อนอยู่และไม่อาจมองเห็นด้วยตา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนรักษาให้ดียิ่งขึ้น


โปรไฟล์แพทย์ รักษาออฟฟิศซินโดรม

โปรไฟล์แพทย์ รักษาออฟฟิศซินโดรมบอกได้เลยว่าทีมงานของเราประกอบด้วยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการรักษาออฟฟิศซินโดรมมาก่อนแล้ว โดยมีคุณลักษณะเด่น ได้แก่


  • เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการตรวจประเมินและรักษาปัญหากล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • ได้รับการฝึกอบรมพิเศษในการใช้เทคนิคทำหัตถการและเครื่องมือที่ทันสมัย
  • พร้อมด้วยความใส่ใจและความเอาใจใส่ระดับสูง เพื่อเข้าใจพฤติกรรมสาเหตุของอาการ ให้คุณรู้สึกสบายใจและมั่นใจในการฟื้นฟูร่างกาย กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

วิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรม

วิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้ดังต่อไปนี้


กายภาพบำบัดเฉพาะบุคคล

การทำกายภาพบำบัดเฉพาะบุคคลจะเน้นการปรับสมดุลกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยก่อนทำจะมีการออกแบบแผนการรักษาที่ตรงกับสภาพร่างกายเฉพาะบุคคล


การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด

การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด ได้แก่ คลื่นอัลตราซาวด์ ลดการอักเสบและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึง ลดอาการปวด และคลื่นช็อกเวฟ กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ เร่งการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ


การทำหัตถการเฉพาะทาง

การทำหัตถการเฉพาะทาง เช่น การกด ดัด ดึง และขยับข้อต่อ โดยมีเทคนิคการทำหัตถการตามไลน์กล้ามเนื้อที่เป็นเอกลักษณ์ของรัชตกายา ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพขึ้น


5 ท่ายืดกล้ามเนื้อ รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม: บอกลาปวดเรื้อรัง!

ชาวออฟฟิศที่ต้องทนนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจกำลังเผชิญกับอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ซึ่งเป็นสัญญาณของ "ออฟฟิศซินโดรม" ภาวะยอดฮิตที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตและการทำงาน เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการปวดเรื้อรังเหล่านี้ รัชตกายา (Rachata Gaya) คลินิกกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาที่ต้นตอของอาการปวด ขอแนะนำ 5 ท่าบริหารออฟฟิศซินโดรมที่ทำได้ง่าย ๆ แม้ในขณะทำงาน เพื่อคืนความยืดหยุ่นให้ร่างกายและบอกลาความเจ็บปวดที่สุดแสนจะทรมาน




1. ท่ายืดกล้ามเนื้อคอ (Neck Stretch)

ท่ายืดกล้ามเนื้อคอ ให้นั่งหลังตรง ค่อย ๆ เอียงศีรษะไปทางด้านขวา ใช้มือขวาช่วยดึงศีรษะเบา ๆ จนรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อคอด้านซ้าย เวลา 15-30 วินาที จากนั้นสลับทำอีกข้างนึง ท่านี้จะช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อบ่าและคอที่เกิดจากการก้มหน้ามองจอเป็นเวลานาน




2. ท่ายืดกล้ามเนื้อหัวไหล่และสะบัก (Shoulder and Scapula Stretch)

ท่ายืดกล้ามเนื้อหัวไหล่และสะบัก ประสานมือทั้งสองข้างแล้วยืดแขนไปข้างหน้าให้สุดในระดับอก ก้มศีรษะลงเล็กน้อย โก่งหลังส่วนบนจนรู้สึกตึงบริเวณสะบักและหัวไหล่ ค้างไว้ 15-30 วินาที ท่ายืดกล้ามเนื้อหัวไหล่และสะบัก จะช่วยลดอาการปวดสะบักและหัวไหล่ที่เกิดจากท่าทางการพิมพ์งานหรือการใช้เมาส์ที่ไม่ถูกต้อง


3. ท่าบิดลำตัว (Torso Twist)

ท่าบิดลำตัว เพียงนั่งบนเก้าอี้โดยให้หลังตรง วางเท้าทั้งสองข้างราบกับพื้น จากนั้นค่อย ๆ บิดลำตัวไปทางด้านขวา ใช้มือซ้ายจับที่พนักพิงเก้าอี้เพื่อช่วยในการบิดตัว ค้างไว้ตั้งแต่ 15-30 วินาที หลังจากนั้นทำอีกข้างในท่าเดียวกัน จะเป็นการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อหลังและลำตัว ลดอาการปวดหลังส่วนล่างได้ดี




4. ท่ายืดกล้ามเนื้อแขนและข้อมือ (Forearm and Wrist Stretch)

ท่ายืดกล้ามเนื้อแขนและข้อมือ ยื่นแขนขวาไปข้างหน้าในลักษณะคว่ำฝ่ามือลง จากนั้นใช้มือซ้ายค่อย ๆ ดึงปลายนิ้วมือขวาเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึงที่ท้องแขน 15-30 วินาที แล้วสลับทำอีกข้างในลักษณะหงายฝ่ามือขึ้น จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดข้อมือและนิ้วล็อก ซึ่งมักเกิดจากการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์อย่างต่อเนื่อง


5. ท่ายืดกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาด้านหลัง (Seated Hip and Hamstring Stretch)

ท่ายืดกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาด้านหลัง นั่งที่ขอบเก้าอี้ เหยียดขาขวาตรงไปข้างหน้าโดยให้ส้นเท้าติดพื้น กระดกปลายเท้าขึ้น ค่อยๆ ก้มตัวลงโดยพยายามให้หลังตรง จนรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อใต้ต้นขาและสะโพก ค้างไว้ประมาณ 15-30 วินาที แล้วสลับไปทำอีกข้าง คลายกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาที่ตึงเครียดจากการนั่งนานๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหลังร้าวลงขา


การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำระหว่างวัน ควบคู่ไปกับการปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม เช่น การปรับระดับความสูงของเก้าอี้และหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะช่วยป้องกันและรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอาการปวดยังคงรุนแรงและเรื้อรัง ควรปรึกษานักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ ที่นี่เราเชื่อมั่นในการรักษาที่ต้นเหตุเพื่อคืนสมดุลให้ร่างกายและให้คุณกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยปราศจากความเจ็บปวด


ประโยชน์ของกายภาพบำบัดในการ รักษาออฟฟิศซินโดรม

ประโยชน์ของกายภาพบำบัดในการ รักษาออฟฟิศซินโดรมมีมากมาย ได้แก่


  • ลดอาการปวดและความตึงของกล้ามเนื้อ
  • พัฒนาระยะการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่น
  • สร้างกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง
  • ปรับปรุงท่าทาง ในการนั่งและยืน
  • ปรับปรุงท่าทาง ในการนั่งและยืน

การปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันและรักษาออฟฟิศซินโดรม

การปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันและรักษาออฟฟิศซินโดรมเริ่มได้จากการปรับท่านั่งให้เหมาะสม เช่น นั่งหลังตรงและปรับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น จากเดิมที่นั่งทำงานตลอดทั้งวัน มาเป็นตั้งเวลาพักเบรกระหว่างงานทุก ๆ 30-60 นาที เพื่อยืดเส้นยืดสาย ร่วมด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เน้นการยืดกล้ามเนื้อและเสริมสร้างความแข็งแรง


นอกจากนี้เรายังต้องมีการจัดสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ ให้มีแสงสว่างและอากาศที่ดี และมีอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนร่างกายถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และที่สำคัญต้องลดลดความเครียด ด้วยการผ่อนคลาย ยืดเหยียดและพักผ่อนเพียงพอด้วย




ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกกายภาพบำบัด รักษาออฟฟิศซินโดรม

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกกายภาพบำบัด รักษาออฟฟิศซินโดรมได้แก่


  • ความเชี่ยวชาญของนักกายภาพบำบัด
  • เทคโนโลยีและอุปกรณ์
  • การดูแลเฉพาะบุคคล
  • บรรยากาศและความสะดวกสบายของคลินิก
  • ความสะดวกในการเดินทางและที่จอดรถ

รัชตกายา คลีนิก กายภาพบำบัด รักษาออฟฟิศซินโดรมที่เชื่อถือได้

รัชตกายา คลีนิก กายภาพบำบัด รักษาออฟฟิศซินโดรมที่เชื่อถือได้ เราพร้อมและมุ่งมั่นที่จะเป็นจะเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูสุขภาพของทุกคน ด้วยทีมงานคุณภาพ มากประสบการณ์ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยด้วยใจ ให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา และเทคโนโลยีทันสมัย เช่น เครื่อง 3D Posture Analysis มาตรฐานสากล มั่นใจได้เลยว่ารักษาที่นี่จะรู้สึกสบายราวกับได้ใช้ชีวิตในร่างใหม่ ไร้อาการออฟฟิศซินโดรมแน่นอน


รัชตกายาเปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 - 20:00 น. ในบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง ให้ผู้เข้ารับบริการทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังมีสาขาให้บริการถึง 6 สาขา ได้แก่สาขาบางนา บางแค ดอนเมือง วัชรพล ชิดลม ปิ่นเกล้า ทุกสาขามีที่จอดรถ ใครสะดวกรับบริการสาขาไหนก็สามารถขับรถเข้าไปปรึกษาได้เลย



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกายภาพบำบัดสำหรับการ รักษาออฟฟิศซินโดรม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกายภาพบำบัดสำหรับการ รักษาออฟฟิศซินโดรม ดูได้ดังต่อไปนี้


การรักษาที่ได้ผลดีคือการผสมผสานระหว่างกายภาพบำบัด การปรับพฤติกรรม และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อย่างยั่งยืน

สามารถหายได้หากได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีการปรับพฤติกรรมการทำงาน แต่ถ้าหากยังคงมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาการก็อาจจะกลับมาได้เช่นกัน

ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แต่ทั่วไปแล้ว กล้ามเนื้อจะเริ่มจดจำท่าทางใหม่ได้ใน 6-8 สัปดาห์

การออกกำลังกายที่เน้นการยืดกล้ามเนื้อ เสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลาง และการฝึกท่าทางที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น



สรุป

ออฟฟิศซินโดรมเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทุกคนที่เผชิญกับโรคนี้ได้ แต่ด้วยการรักษาที่เหมาะสมและการปรับพฤติกรรม ก็จะช่วยให้ทุกคนสามารถกลับมามีชีวิตที่ปราศจากอาการปวดได้เช่นกัน ที่ รัชตกายา คลินิกกายภาพบำบัด เราพร้อมที่จะเดินเคียงข้างคุณในทุกขั้นตอน


ติดต่อจองคิวนัดหมายคลินิกกายภาพบำบัดได้ที่

Website : https://www.rachatagaya.com

Line@ : Rachatagaya Clinic

Tel : 092-862-6988

บล็อคที่เพิ่งดูไป

Contact us